เปิดฟีเจอร์(เพิ่ง)ใหม่ไอโฟน14 แต่มีจนเก่าแล้วบนมือถือแอนดรอยด์

0

เปิดฟีเจอร์(เพิ่ง)ใหม่ไอโฟน14 แต่มีจนเก่าแล้วบนมือถือแอนดรอยด์

เปิดฟีเจอร์(เพิ่ง)ใหม่ไอโฟน14 – วันที่ 12 ก.ย. ซีเน็ตรายงานว่า ฟีเจอร์จำนวนมากที่แอปเปิ้ลผู้พัฒนาไอโฟน ระบุไว้ว่า ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา “เป็นครั้งแรก” ภายในงานเปิดตัว ไอโฟน 14 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นแทบทั้งหมดเป็นฟีเจอร์ที่มีมานานแล้วในสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

รายงานระบุว่า ถ้อยคำของแอปเปิ้ลที่ใช้นั้นอาจทำให้บรรดาสาวกของไอโฟนบางคนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า แอปเปิ้ล เป็นผู้นำในด้านการคิดค้นฟีเจอร์ระดับนวัตกรรมเหล่านี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วฟีเจอร์เหล่านี้เป็นครั้งแรกของ “ไอโฟน” เท่านั้น ไม่ใช่ของโลก ได้แก่

นับเป็น “ครั้งแรก” ที่ไอโฟน 14 โปร เป็นไอโฟนที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (MP) นับได้เป็น 4 เท่าของไอโฟน 14 และ 13 โปร แต่พิกเซลที่หนาแน่นขึ้นทำให้แต่ละพิกเซลนั้นได้รับแสงเพียงพอยากขึ้นไปด้วย

เทคนิค พิกเซล บินนิ่ง ช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นด้วยการรวมพิกเซล 4 พิกเซล เป็นพิกเซลขนาดใหญ่พิกเซลเดียว ทำให้เซ็นเซอร์สามารถรับแสงได้เพียงพอแต่ยังคงเรโซลูชั่นของภาพให้มีความละเอียดสูงไว้ได้ เช่น ซัมซุง กาแล็กซี เอส 21 วันพลัส 9 และเสี่ยวหมี่ หมี่ 11 อัลตร้า รวมถึงสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ราคาเบาๆ ด้วย

นายวิเตอร์ ซิลวา ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ล จึงกล่าวอย่างระวัดระวังในช่วงงานเปิดตัว “Far out” ของแอปเปิ้ลว่า “แอปเปิ้ลได้นำกล้องรุ่นใหม่มาใส่ไว้ในไอโฟน” สรุปได้ว่า แอปเปิ้ลไม่ใช่ค่ายแรกที่นำกล้องรุ่นใหม่มาใช้เป็นเจ้าแรก

Video stabilization

ปัญหาสำคัญที่สุดของการถ่ายคลิปด้วยสมาร์ตโฟน คือ ปัญหาการเกิดภาพสั่น แม้บรรดากล้องของหลายค่ายสมาร์ตโฟนจะแก้ปัญหาที่ว่านี้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าหลายค่ายยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าระดับกล้องพวกโกโปร

ทว่า ด้วยเทคนิคการคำนวณที่มีความก้าวหน้านั้นส่งผลให้สมาร์ตโฟนหลายรุ่นมีฟีเจอร์อย่าง Active Stability และโหมด Super Steady ที่ทำให้ภาพที่ออกมานั้นนิ่งเป็นพิเศษจนมีคุณภาพทัดเทียมกับพวกกล้องโกโปรได้

นับเป็น “ครั้งแรก” ของไอโฟน ที่ทางแอปเปิ้ลนำฟีเจอร์ดังกล่าวมาใส่ไว้ในไอโฟน 14 ทุกรุ่น เรียกว่า Action Mode ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ใหม่บนไอโฟนแต่มีมานานแล้วในสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ อาทิ กูเกิ้ล พิกเซล 5 (2020) และซัมซุง กาแล็กซี เอส20 (2020)

Always-on display/LTPO display

ฟีเจอร์นี้มีอยู่บนสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์มานานหลายปีมากรวมถึง Lumia (2013) ที่เป็นวินโดวส์โฟนซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว โดยค่ายแอลจี ประเทศเกาหลีใต้ นำมาใช้เป็นครั้งแรกในนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ ก่อนที่ซัมซุงจะนำมาใช้บนสมาร์ตโฟนเสียอีก

ออลเวย์ส-ออน ดิสเพลย์ เป็นฟีเจอร์ที่ให้หน้าจอแสดงผลข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น เช่น วันเวลา ปฏิทิน และอื่นๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเรียกให้เครื่องทำงานทั้งหน้าจอ

โดยใช้ประโยช์จากจอภาพแบบ AMOLED ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถเปิดปิดพิกเซลแต่ละจุดได้โดยอิสระและไม่ต้องใช้แบคไลท์ให้แสง ส่งผลให้จอภาพสามารถแสดงข้อมูลเป็นจุดๆ ได้ โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป

นายเกร็ก จอซเวียก์ รองประธานอาวุโสด้านการตลาดของแอปเปิ้ล ระบุไว้ว่า เทคโนโลยี LTPO ในหน้าจอ Super Retina XDR ของไอโฟน 14 โปร ทำให้หน้าจอสามารถลดความถี่จอลงได้ถึง 1 เฮิร์ซ (Hz) ทำให้ประหยัดพลังงาน

แม้นายจอซเวียก์ไม่ได้กล่าวไว้ว่าเป็นครั้งแรก แต่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่สับสน ต้องย้ำว่าสมาร์ตโฟนที่มีฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก คือ ซัมซุง กาแล็กซี เอส22 อัลตร้า ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ (LTPO ย่อมาจาก Low-Temperature Polycrystalline Oxide)

Pill-shaped selfie camera cutout

หนึ่งในเอกลักษณ์ที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของไอโฟนช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ ติ่งขนาดใหญ่ (notch) ที่ย้อยลงมาจากขอบด้านบนของเครื่อง นับเป็น “ครั้งแรก” ที่แอปเปิ้ลเปลี่ยนจากติ่งมาเป็นหลุมบนจอภาพในไอโฟน 14 เช่นเดียวกันกับสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป

“ติ่ง” ดังกล่าว แอปเปิ้ลนำมาใช้ครั้งแรกใน ไอโฟน เท็น (iPhone X) เมื่อปี 2017 ส่งผลให้คู่แข่งอย่างซัมซุงนั้นไปทำโฆษณาล้อเลียนอย่างหนักหน่วงและทางซัมซุงแก้ปัญหานี้ด้วยการสร้างหลุมไว้บนจอภาพแทน

ปรากฏการณ์ “ติ่ง” บนจอไอโฟน เท็น (หรือที่บางคนมักเรียกผิดๆ ว่าไอโฟน เอ็กซ์) ยังกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมอื่นในวงการแอนดรอยด์ด้วย อาทิ กล้องมอเตอร์ที่ยื่นออกมาจากขอบตัวเครื่องได้อย่าง วันพลัส 7 โปร และล่าสุดอย่าง ซัมซุง กาแล็กซี ซี โฟลด์ 4 ที่มีกล้องพรางอยู่ใต้จอ

ไม่ว่าอย่างไร แอปเปิ้ลถือว่าตามหลังสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ในด้านนี้อย่างมาก ทว่า อย่างน้อยที่สุด หลุมแคปซูลยาบนจอของไอโฟน 14 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Dynamic Island ที่ให้ผู้ใช้แตะเพื่อควบคุมเครื่องได้ ทั้งยังมีอนิเมชั่นที่ช่วยให้หลุมแลดูเป็นหนึ่งเดียวกับเครื่องมากขึ้น

อย่าเพิ่งร้องยี้-แอปเปิ้ลก็มีดี

แม้หลายฟีเจอร์ที่ทางแอปเปิ้ลนำมาแสดงในงาน Far Out จะเป็นฟีเจอร์ที่สมาร์ตโฟนแอนดรอยด์มีมานานแล้ว ทว่า ไอโฟน 14 โปรนั้นมาพร้อมกับชิพ A16 Bionic ซึ่งแอปเปิ้ลนั้นยังคงรักษาความเป็นหนึ่งในใต้หล้าเรื่องประสิทธิภาพชิพและการประหยัดพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ หน้าจอ Super Retina XDR ใหม่นั้นมีความสว่างสูงสุดถึง 2,000 นิต นับว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้แต่ซัมซุงกาแล็กซี เอส22 อัลตร้าก็สู้ไม่ได้ (1,750 นิต)

ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์มากอย่าง The Emergency SOS service ที่ให้ผู้ใช้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมได้แม้ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ (เฉพาะสหรัฐฯและแคนาดา)

ขณะที่กล้องเซลฟี่แบบ TrueDepth นั้นจะทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่พร้อม bokeh effect ที่สมจริงเป็นธรรมชาติกว่ากล้องเซลฟี่ของค่ายใดๆ ดังนั้นเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คำโฆษณาผลิตภัณฑ์ใดๆ อย่าเพิ่งแน่ใจจนเกินไปว่าทุกรายละเอียดนั้นถูกต้อง

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *