เจฟ ซาเตอร์ ไม่กดดัน! “โปรเจกต์ D” เสียบแทน พีพี กฤษฏ์ ท้าทายได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง

0

เจฟ ซาเตอร์ ไม่กดดัน! “โปรเจกต์ D” เสียบแทน พีพี กฤษฏ์ ท้าทายได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง

หลังจากค่ายหนัง ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา “GDH 559” ได้ออกประกาศเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่ามีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำภาพยนตร์ “โปรเจกต์ D” (Working Title) เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันที่ 29 ส.ค.66 มีข่าวดีที่ทำให้แฟนๆ ดีใจกันยกใหญ่ เมื่อ GDH 559 ประกาศเดินหน้าถ่ายทำภาพยนตร์ “โปรเจกต์ D” โดยจะเริ่มเปิดกล้องในช่วงปลายปีนี้ พร้อมเปิดตัวนักร้องหนุ่ม “เจฟ ซาเตอร์” ประกบ “อิงฟ้า วราหะ” รวมถึง “เต้ย พงศกร” นักแสดงชื่อดังอีกด้วย

ทั้งนี้ในวันเดียวกัน “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” สบโอกาสได้เจอ เจฟ ซาเตอร์ ในงานเปิดตัวรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกรุ่นใหม่ ‘New Honda Giorno+’ ที่ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น22 เซ็นทาราแกรนด์ @เซ็นทรัลเวิลด์ จึงสอบถามถึงการได้มาร่วมงานในภาพยนตร์ดังกล่าว

โดย เจฟ กล่าวว่า “จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอส(นฤเบศ กูโน) ความน่าสนใจของตัวบทคือมีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อยๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้”

ได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่ไหมว่าทำไมถึงเลือกเรา? “คุยนะครับ เพราะตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น”

กดดันไหมเพราะก่อนหน้านี้วางตัวเป็น พีพี กฤษฏ์ เล่น แต่ภายหลังขอถอนตัวไป? “ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริงๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”

ก่อนหน้านี้วางตัวเป็น พีพี กฤษฏ์ เล่น

แล้วกดดันในเรื่องของคาแร็กเตอร์ไหมเพราะต้องผิวดำและโกนหัว? “(หัวเราะ)มันไม่เชิงกดดันครับ แต่ผมอยากเห็นตัวเองในแบบนั้น ถ้าจะต้องไปเป็นคนอื่นมันก็ต้องไปเป็นคนอื่นจริงๆ มันต้องทิ้งตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ต แล้วก็เอาตัวเองเข้าไปในบท ผมก็เลยอยากจะทรานส์ฟอร์มไปเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มีใครเคยเห็น ส่วนว่าจะทรานส์ฟอร์มขนาดไหนต้องรอดูในหนัง แต่ว่าก็ได้มีการคุยกับทีมงานแล้ว อย่างในเรื่องของการโกนหัวก็ต้องรอดูว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน”

ลุกส์ที่ต้องเปลี่ยนไปเราจะต้องเปลี่ยนไปเลย หรือว่าใช้เอฟเฟ็กต์ช่วย? “ผมว่ามันน่าจะมีหลายแบบ ทั้งที่เปลี่ยนไปเลยด้วยแล้วก็ใช้เอฟเฟ็กต์ช่วยด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้เวิร์กช็อป แต่ผมเห็นบททั้งเรื่องของหนังเรื่องนี้แล้ว บอกเลยว่ามันไปสุดจริงๆ ในเวย์ของมัน”

เจฟ ชาเตอร์

ไม่ติดกับเรื่องสวนทุเรียนใช่ไหมเพราะในเรื่องจะต้องเกี่ยวข้องด้วย? “ผมชอบกินทุเรียนมาก ชอบหมอนทองมากเลย ผมก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่อาจจะรู้เรื่องนี้มาเลยเรียกผมมาแคสต์หรือเปล่า ส่วนเรื่องการถ่ายทำน่าจะปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าครับ ถามว่าในช่วงของการถ่ายทำหนังผมจะหายไปจากการทำเพลงหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ครับ ผมยังทำอยู่ นี่ก็คือสิ่งที่ท้าทายประมาณหนึ่งที่เราจะต้องทำทุกอย่างภายในเวลาเดียวกันด้วย”

การจะได้มาร่วมงานกับ อิงฟ้า วราหะ ล่ะ? “จริงๆ น่าตื่นเต้นนะครับ ผมว่าการได้ร่วมงานไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามในหนัง ทุกคนเป็นมืออาชีพกันหมด อิงฟ้า พี่เต้ย (พงศกร) และคนอื่นๆ การได้แชร์ประสบการณ์และได้ทำงานด้วยกันน่าจะเจ๋งดี”

อิงฟ้า วราหะ

อ่านข่าวเพิ่มได้ที่ : https://www.khaosod.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *